มีนาคม 3, 2021

ประวัติวันแม่

ประวัติวันแม่

          เราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันนี้ไปทุกๆวันแม่นั้นจะตรงกับเดือนสิงหาคมซึ่งจะต้องเป็นวันที่ 12 ของเดือนเท่านั้นเนื่องจากว่าเป็นดังกล่าวนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถซึ่งเป็นพระมเหสีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยในทุกๆปีเมื่อถึงวันแม่ก็จะเป็นวันหยุดที่ข้าราชการรวมถึงนักเรียนนักศึกษานั้นไม่ต้องไปโรงเรียนแต่ก่อนจะถึงวันแม่ก็จะมีการจัดกิจกรรมวันแม่เกิดขึ้น

ซึ่งก็จะมีการทำพิธีสดุดีให้กับพระบรมราชินีนาถอีกทั้งเด็กๆก็จะได้มีการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนด้วยการนำดอกไม้และพวงมาลัยไปไหว้แม่ของตนเองสำหรับวันแม่นั้นว่ากันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงประมาณปีพ.ศ 2493 ซึ่งในตอนนั้นวันแม่ยังตรงกับวันที่ 15 เดือนเมษายนอยู่เลย

ซึ่งการกำหนดให้มีวันแม่นั้นถูกกำหนดด้วยคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้มีการประชุมปรึกษาหารือและมีมติว่าจะให้มีวันแม่ซึ่งจะต้องมีการจัดงานในทุกๆปีโดยในวันแม่นั้นจะต้องมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะไปทำบุญไหว้พระและกิจกรรมเกี่ยวกับแม่โดยตรงซึ่งจะมีงานการประกวดต่างๆการไหว้แม่การพาแม่ไปเที่ยวโดยรัฐบาลชุดที่มีการประกาศให้มีการจัดตั้งวันแม่นั้นเป็นรัฐบาลของจอมพลปพิบูลสงครามนั่นเองซึ่งท่านได้มีการประกาศเอาไว้เกี่ยวกับวันแม่ว่าในวันที่มีการระบุวันแม่คือวันที่ 15   เมษายนนั้น

จะต้องเรียกชื่อแบบเป็นทางการว่าวันแม่แห่งชาติเป็นอย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการใช้วันแม่ตรงกับวันที่ 15 เดือนเมษายนมาได้ ประมาณ 26 ปีก็ได้มีการเปลี่ยนวันแม่จากวันที่ 15 เมษายนกลายมาเป็นวันที่ 12 สิงหาคมแทนเนื่องจากว่าทางรัฐบาลได้มีการยึดเอาเป็นวันสำคัญของพระราชินีมาเป็นวันแม่แทนซึ่งมันสำคัญ

ดังกล่าวนั้นรัฐบาลได้มีการตกลงกันว่าจะใช้วันเกิดของพระราชินีนั้นเองที่จะมาเป็นวันแม่เพราะประชาชนมีความรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และรักและเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถอยู่แล้วดังนั้นจึงถือเอาว่าวันเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นวันพ่อและให้เอาวันเกิดของพระบรมราชินีนาถซึ่งตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่นั่นเองหลังจากนั้นก็มีการตั้งกฎและประกาศออกมาซึ่งนับตั้งแต่นั้นก็มีการยึดถือและปฏิบัติกันเรื่อยมาโดยปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่ 12 สิงหาคมที่ยังคงเป็นวันแม่แห่งชาติอยู่นั่นเอง

          เรื่องปกติและกิจกรรมวันแม่ที่โรงเรียนก็จะมีการเชิญแม่ไปให้เด็กๆที่โรงเรียนนั้นได้กราบไหว้แต่ภายหลังนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงกันมากขึ้นเนื่องจากว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่นั้นเป็นคนหาเช้ากินค่ำเป็นพนักงานที่ต้องทำงานและไม่สามารถลางานได้อีกทั้งยังมีเด็กบางคนที่เป็นเด็กกำพร้าขาดทั้งพ่อและแม่เมื่อต้องมีการจัดกิจกรรมนำแม่มาไหว้ที่โรงเรียนมีเด็กหลายคนที่ร้องไห้เพราะตนเองนั้น

ไม่มีแม่ดังนั้นหลายๆคนจึงมองว่ากิจกรรมการเชิญแม่ไปไหว้ที่โรงเรียนนั้นควรจะงดการจัดกิจกรรมนี้จะดีที่สุด เพราะเด็กๆต้องการไหว้แม่ก็ควรที่จะทำเองที่บ้านจะเป็นการดีที่สุดเพื่อเป็นการลดปัญหาการสะเทือนจิตใจของเด็กอีกหลายคนที่ไม่มีแม่ไปร่วมงานนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าเว็บไหนดี

ประวัติ ประเพณี วัฒนธรรม
อดีต-ปัจจุบัน